คัมภีร์ ซี้ปึก ฉบับ Harry Potter ภาค 2 - คัมภีร์ ซี้ปึก ฉบับ Harry Potter ภาค 2 นิยาย คัมภีร์ ซี้ปึก ฉบับ Harry Potter ภาค 2 : Dek-D.com - Writer

    คัมภีร์ ซี้ปึก ฉบับ Harry Potter ภาค 2

    เกมโชว์ที่จะทำให้คุณ ลืมความเครียด มีแต่มันส์กับฮา 55+

    ผู้เข้าชมรวม

    2,352

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    2.35K

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    63
    หมวด :  ตลก-ขบขัน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.ค. 53 / 15:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


                                                                      


      เจมส์และสเนป มาถึงด่านที่ 3 เป็นทีมแรก  แต่ปรากฏว่าไม่มีลูกโป่งที่พวกเขาจะต้องเลี้ยงไปสักลูก  
      จะมีก็แต่แผ่นป้ายที่เขียนแปะติดคำสั่งไว้
      “มีท่านผู้ชมผู้น่ารักส่งเอสเอ็มเอสมาหาเราว่า เลี้ยงลูกโป่งมันธรรมดาไปแล้วสำหรับรายการคัมภีร์ซี้ปึก  เราเลยจัดเกมใหม่ขึ้นมาสดๆร้อนๆ   วิธีการเล่นแสนง่าย  พวกคุณจะต้องผ่านทางวิบากของเราเพื่อไปให้ถึงแท่นตอบคำถาม  ที่แท่นตอบคำถามเราจะมีคำถามที่เกี่ยวกับเพื่อนของคุณมาถาม  คุณต้องตอบให้ถูกเพื่อเปิดประตูให้เพื่อนของคุณได้ผ่านเข้าไปในด่านถัดไป  และเขาจะเป็นคนตอบคำถามข้อต่อไปเพื่อเปิดประตูให้คุณ”เมื่อเจมส์อ่านจบ  เขาก็หันมาพยักหน้าให้สเนป

      “ฉันให้นายเลือกก่อน”ทั้งคู่มาถึงทางเข้าด่านที่ 3 ซึ่งแยกเป็น 2 เส้นทาง  สเนปมองสำรวจดูเส้นทางคร่าวๆ

      “ซ้าย...ไม่ๆๆ  ขวาดีกว่า”

      “โชคดี  แล้วเจอกัน” เจมส์เริ่มออกวิ่งไปตามเส้นทางที่สเนปไม่ได้เลือก  สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือหินลาวาร้อนระอุ  ซึ่งเขาต้องไต่เถาวัลย์  เพื่อเข้าไปตอบยังแท่นคำถามที่อยู่ตรงใจกลาง 

      “โอ้  อิส โซ ฮอท จริงๆ”เจมส์ไต่เถาวัลย์ผ่านมาครึ่งทาง  ความร้อนของหินลาวา  ทำให้มือของเขาเหงื่อออก  และทำให้มันยากขึ้นในการที่จะจับเถาวัลย์ให้มั่นคง  แต่เขาก็สามารถมาถึงแท่นตอบคำถามได้สำเร็จ

      “คำถามข้อแรก  คือ  อาหารที่คู่ซี้ของคุณชอบกินมากที่สุด” เจมส์ครุ่นคิด

      “เอ่อ  อะไรดีหว่า...พิซซ่า...”

      ตืด!!  ผิด

      “พาสต้า...”

      ตืด!! 

      “ลาซานญ่า ... สปาเก็ตตี้

      ตืด!! 

      “มาม่า  ยำยำ”

      ตืด!! 

      “หมี่ซั่ว...ข้าวเหนียวถั่วดำ ....ส้มตำ.... ไก่ย่าง...ซุปหน่อไม้(ป่าเดียวกัน)”

      ตืด!! ไม่ถูก

      “พอตเตอร์ ให้มันเร็วๆสิ  กรินดี้โลว์มันจะกินหัวฉันอยู่แล้ว” สเนปซึ่งกำลังพยายามกระโดดหลบฝูงกรินดี้โลว์ขี้โมโหในหนองน้ำ  ตะโกนมากระตุ้น

      “ก็อย่าเร่งสิ  ฉันไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ เซเวอรัส สเนป นะเฟ้ย  กบทอดกระเทียม  ตั๊กแตนปาทังก้า  ยำไข่แมงดา  พระกระโดดกำแพง” ดูเฮียแกตอบแต่ล่ะอย่าง

      “เซเวอรัสมันชอบกินอระไรว่ะ  วันๆแมร่งก็อยู่แต่ในคุก(ใต้ดิน)  กินก็กินแต่อาหารโรงเรียน  ไม่เห็นจะชอบอะไรเป็นพิเศษ  พูดง่ายๆก็คือแ_กไม่เลือก”

      “พอตเตอร์  ฉันได้ยินที่นายพูดนะ”เสียงสเนปเล่นเอาเจมส์สะดุ้ง

      “อ่าใช่แล้ว  นายชอบกินอาหารประเภทไข่ใช่ไหมล่ะ  ไม่ว่าจะเป็น  ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ไข่ลวก หรือแม้แต่  ไข่คน

      ปิ้งป่องๆ

      ประตูเปิดออกและสเนปก็สะบัดกรินดี้โลว์หลุด  กระโจนข้ามผ่านประตูไปทันที

      ขณะที่เจมส์กำลังอึ้งกับคำตอบสุดท้าย  ไข่คน

      “นายอย่ามาคิดลามกอนาจารนะ  ไม่รู้จักหรือไง ออมเล็ทน่ะ”สเนปตะโกนด่ามาจากอีกฟาก

      “นี่ ...วันหลังขอฉันกินไข่คนของนายบ้างซิ  อยากรู้ว่าจะอร่อยแค่ไหน”เจมส์ยิ่มยั่ว

      “ได้สิ...แต่ไปกินในยมโลกแล้วกัน!!  ไอ้หน้าหม้อ!!”สเนปคว้าได้ตัวสตรีลเลอร์  ซึ่งเป็นทากขนาดยักษ์ก็เขวี้ยงใส่เจ้าคนปากไม่มีหูรูดทันที

      “เฮ้ ... ระวังหน่อยสิ  ลืมไปแล้ววหรอว่าเราเป็นทีมเดียวกัน”เจมส์เบี่ยงหลบได้อย่างสวยงาม  ทั้งที่กำลังยืนอยู่บนไม้กระดานแผ่นเดียวที่ทอดผ่านหินลาวาไปยังอีกฝั่ง

      “ฉันไม่เคยเป็นทีมเดียวกับนาย  ไม่มีวัน  อ๊าค!!” สเนปคว้าเจ้าทากเคราะห์ร้ายขึ้นมาอีกตัว  แต่เจมส์ก็ยังหลบได้อย่างง่ายดาย

      สเนปเดินเหยียบหัวฝูงทากยักษ์จนแบนแต๊ดแต๋  แต่ละย่างก้าวคือความแค้นที่ฝังแน่นอยู่ในอก

      เมื่อไร  เกมบ้าๆนี่จะจบเสียทีเขาคิด

      “คำถามคือ  ของขวัญชิ้นแรกที่คุณให้เขาตอนวันคริสต์มาส”

      “คำสาปแช่ง”สเนปตอบแบบไม่ต้องคิด

      ปิ้งป่องๆ ประตูเปิดให้เจมส์ผ่านเข้าไปยังด่านต่อไป

      “นายก็รู้เรื่องของฉันดีเหมือนกันน่ะ”เจมส์ยิ้ม  สเนปแยกเขี้ยวตอบกลับมา
                                                *******************************************************************

      กล้องตัดไปยังคู่ต่อมา คือคู่ของ ซีเรียสกับลูปิน”

      “คำถามคือ  อาหารที่คู่ซี้ของคุณชอบกินมากที่สุด”

      “สเต็ก!”ลูปินตอบอย่างมั่นใจ

      ตืด!! ผิด

      “อ้าว...ไม่ใช่หรอ”ลูปินทำหน้าผิดหวัง

      “นึกให้ดีๆซิรีมัส”ซีเรียสตะโกนเชียร์มาจากอีกฝั่ง

      “อย่าบอกนะว่า...”

      “อืมก็อย่างที่นายคิดนั่นแล่ะ”

      “ซีเรียส...ไม่  ฉันไม่ตอบเด็ดขาด”ลูปินโวยวาย  คิดไปถึงไหนต่อไหน

      “อะไร...กลัวคนอื่นจะรู้ความลับของฉันหรือไง  ตอบๆไปเถอะน่า”ซีเรียสกำลังหงุดหงิดกับการสะบัดให้หลุดจากฝูงกรินดี้โลว์

      “กิน...ผม”ลูปินหลับตากั้นใจตอบ

      ตืด!

      “รีมัส  เมื่อกี่นายว่าอะไรนะ”ซีเรียสยิ้มเจ้าเล่ห์

      “อ๊าค...ไม่เล่นแล้ว  ไม่เล่นแล้ว  ฉันสละสิทธิ์  ไม่ต้องมายิ้มเลยนะไอ้เจ้าบ้า  ใครจะไปรู้ว่ะ  ว่าแกชอบกินอะไร  ขนมปังปิ้งกับ กาแฟหรือไง”

      ปิ้งป่องๆ  จะถูกก็ถูกซะดื้อๆเลย (อะไรที่รีมัสทำ  ซีเรียสก็ชอบทั้งนั้น  ถึงแม้จะเป็นขนมปังที่ปิ้งจนไหม้ดำปิ๊ดปี๋  กับ กาแฟเค็มๆ  ที่รีมัสนึกว่าโหลเกลือ  เป็นน้ำตาล)

      “นี่รีมัส ครั้งที่ 2 นายตอบไม่ตรงคำถามนี่น่า  เขาถามว่าฉันชอบกินอะไร  ไม่ได้ถามว่าฉันอยากกินอะไรมากที่สุด  แต่ถ้านายอยากให้มันถูก  ก็ยอมให้ฉันกินสิ  รับรองต้องชอบจนบอกว่าขอ 2 แน่”

      “ลาล่า ลัลลา... ไม่ได้ยินๆ ฉันไม่ได้ยินอะไรที่นายพูดทั้งนั้น”ลูปินอุดหูตัวเอง

      “ฉันอยากกิน  moony เคลือบช็อคโกแลต  อยากกินเยลลี่รส moony  อยากกิน moonyเบียร์ อยากกิน น้ำฟัก! ของ moony เอ้ย!  น้ำฟักทองของ moony

      “อ๊าค...ซีเรียสหุบปาก”ลูปินควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่

      “คำถามคือ  ของขวัญชิ้นแรกที่คุณให้เขาในวันคริสต์มาส”

      “จูบ”ซีเรียสตอบอย่างมั่นใจ

      ปิ้งป่องๆ

      “ไม่จริง...นายเคยจูบฉันตอนวันคริสต์มาสซะที่ไหนเล่า” (อ้าวงั้นเทศกาลอื่นก็จูบน่ะสิ)

      “อ้าวนี่นายจำไม่ได้หรอ  ที่ห้องพยาบาลตอนที่เราอยู่ปีหนึ่งไง”

      ย้อนความ  ไปเมื่อปี 1971

       

      ปีนี้มีการจัดแข่งขันเวทไตรภาคีพอดี  ทุกคนอยู่ในงานเต้นรำกันหมด  จะเว้นก็แต่เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าซีดผอมด้วยโรคประหลาด  ที่มักจะเกิดขึ้นทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง  และมันก็พึ่งผ่านมาเมื่อวาน  กำลังนอนสะอึกสะอื้นด้วยความเหงา และว้าเหว่ อยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

      “ฮือ...ฮือ  ทำไมโรคบ้าๆนี่ต้องมาเกิดขึ้นกับฉันด้วย  ทำไมฉันไม่เป็นเหมือนคนธรรมดา  น่าเจ็บใจนัก   ทุกคนสนุกสนานกันใหญ่  ฮึก...ฮึก  ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียว”

      “กะแล้วเชียว  ว่านายต้องอยู่ที่นี่...เดี๋ยวนี้หัดโกหกเพื่อนนะ  ไหนบอกว่ากลับบ้านไปเยี่ยมแม่ไง”เด็กหนุ่มผู้มีผมดำสุดเท่ห์  อยู่ๆก็มาโผล่อยู่ข้างเตียงเขา

      “ซีเรียส! “ลูปินในร่างวัยเด็กอุทานด้วยความตกใจ

      “ชู้ว์ๆ ฉันแอบเข้ามา  เดี๋ยวมาดามพรอมฟีย์รู้”ซีเรียสเอามือจุ๊ปาก  ลูปินรีบปิดปากตัวเองทันที

      “แปลกใจมากนักไง ที่เห็นฉัน”ซีเรียสถาม

      ลูปินผงกหัว  พยายามป้ายน้ำตาออก จะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้ว่าเขาขี้แง

      “นายน่าจะอยู่ในงานนี่”

      “เฮอะ...น่าเบื่อจะตาย  ไม่เห็นจะสนุกเลย”ซีเรียสเบ้ปาก

      “แล้วคู่ของนายล่ะ  หนีมาอย่างงี้เขาไม่ว่าหรอ”

      “นั่นยิ่งน่าเบื่อใหญ่  ฉันสะบัดยายนั่นหลุดตั้งแต่เข้างาน”ซีเรียสตอบอย่างไม่ใส่ใจ

      “ใจร้าย”น้ำเสียงของลูปินบ่งบอกว่าไม่พอใจ

      “อะไรเล่า”อยู่ๆลูปินก็มาพาลใส่เขา  ซีเรียสชักไม่เข้าใจ

      “เขาก็มีหัวใจเหมือนกันนะ”

      “ถ้าไม่งั้น  แล้วจะได้มาหานายรึไง”ซีเรียสหลุดพูดออกไปจนได้

      “มาหาฉัน”ลูปินถามงง

      “ก็เออน่ะสิ  เด็กขี้แง  ฉันเห็นนะตานายแดงๆ  แถมมีคราบน้ำตาอีกต่างหาก”ซีเรียสจับคางลูปินเชิดขึ้น  แล้วเข้ามาจ้องใกล้ๆ  “เหงาใช่ไหมล่ะ”

      “เปล่านะ...เอ่อ...แสงพระจันทร์มันแยงตาฉันจนแสบ”ลูปินเถียงดื้อๆ

      55+  คิดได้ไง  มุกใหม่เลยนะเนี่ย  วันหลังจะขอยืมไปใช้บ้างซีเรียสยิ้ม

       “เหงาก็พูดมาเถอะน่า”

      “เปล่านะ...ไม่ได้เหงา”ลูปินยังคงปฎิเสธ

      “อ้าวเหรอ...ฉันก็หลงเข้าใจผิด   กะจะอยู่เป็นเพื่อนซะหน่อย  งั้นกลับไปที่งานดีกว่า”ซีเรียสหันหลังกลับ

      “...”

      ตึกตัก

      ตึกตัก

      “ซีเรียส...อย่าไปนะ”ลูปินตัดสินใจพูดออกไปในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ซีเรียสจะปิดประตูลง  “อยู่เป็นเพื่อนฉันนะ  ฉันเหงา” ลูปินสารภาพ  และเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

      ซีเรียสแอบยิ้มกับเงาของตัวเอง แล้วปิดประตูลง

      “ไม่ไปหรอก  เลิกร้องไห้สักที”พอเริ่มร้องแล้วก็ดูเหมือนมันจะหยุดไม่ได้ซะด้วยซิ”ซีเรียสนั่งลงข้างๆลูปิน

      “ฮึกๆ...ฉันดีใจนะที่ฉันมีเพื่อนอย่างนาย...”ซีเรียสได้ฟังแล้วก็อดตัวลอยไม่ได้  “ทั้งเจมส์  แล้วก็ปีเตอร์ด้วย ฮึกๆ”ลูปินยิ้มทั้งน้ำตา 

      “อือ...ฉันก็ดีใจ”ซีเรียสลูบหัวเขาเบาๆอย่างปลอบประโลม

      “มีอะไรที่นายไม่สบายใจ  ก็พูดกับฉันได้นะ  กับเจมส์  หรือปีเตอร์ก็ได้   ฉันไม่ชอบเลย  เวลาเห็นนายทำหน้าอมทุกข์อย่างนี้”

      ถ้าบอก...ก็ดีแต่จะถูกเกลียด...ไม่อยากถูกใครเกลียดอีกแล้ว

      ลูปินเอาหน้าซุกลงไปกับอกของซีเรียส  แล้วสะอื้นหนักกว่าเก่า  ซีเรียสเองก็ตกใจ  แต่ทำได้แค่ปลอบเท่านั้น

      อะไรกันนะ  ที่ทำให้คนที่ร่าเริงอย่างรีมัส  ทุกข์ใจได้ขนาดนี้   อยากจะแบ่งเบา  ความทุกข์ในใจของรีมัส  มาไว้กับเราบ้างจัง

       เด็กหนุ่มผมดำ  ก้มลงจูบที่หน้าผากของเพื่อนอย่างลืมตัว

      เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน

      ลูปินเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย  รู้สึกว่าจะหยุดร้องไห้แล้ว

      “เอ่อ...ถือเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแล้วกัน  จูบของฉันมันมีฤทธิ์พิเศษทำให้คนหายเศร้าได้นะ  เห็นไหม  นายหยุดร้องไห้แล้ว”ซีเรียสแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

      “หึๆ”ลูปินหัวเราะในลำคอกับโหมดเขินของซีเรียส “ขอบใจนะ...รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”

      “เอ่อ...รีบหลับซะนะ...พรุ่งนี้นายจะได้กลับมาแข็งแรง  แล้วก็กลับไปเรียนกับพวกฉันได้ไง”

      “อืม...มีคาถาเสกให้ฉันหลับไหมล่ะ”ลูปินบิดขี้เกียจ  “ฉันนอนไม่หลับเลย  เวลาอยู่คนเดียว”

      “มี...แต่นายต้องหลับตาก่อน”ซีเรียสสั่ง  ลูปินก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย

      “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ห้ามลืมตาเด็ดขาดนะ”ซีเรียสย้ำ

      “อือ...”ลูปินตอบรับในลำคอ

      “อินซอมเนีย  อินซอมเนีย  ความทุกข์และความโศกเศร้า  ความเหงาและความเหนื่อยล้าของเด็กชาย  นามว่ารีมัส ลูปิน จงหายไป  ให้คงเหลือไว้แต่ความรักและความสุข  ความร่าเริงและแจ่มใส  ขอให้เขาหลับลงไป  และตื่นขึ้นอย่างสดใสในวันถัดมา  โอมเพี้ยง”ซีเรียสร่ายมนต์  และเนื่องจากเขาไม่กล้าใช้ไม้กายสิทธิ์จริงๆ (เกิดพลาดเสก รีมัสให้กลายเป็นเจ้าชายนิทราแล้วทำไง)  เขาจึงผนึกเวทมนตร์นี้ไว้บนร่างกายของลูปิน  ด้วยอะไรน่ะหรอ  

      ...หึๆ...ท่านผู้ชมคงจะเดาออก...

      กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน
      "ของที่แฮร์รี่ชอบกินหรอ..." รอนทำหน้าครุ่นคิด
      "ถ้าเป็นขนมล่ะก็ กบช็อคโกแลต"
      ปิ้งป่องๆ รอนสะดุ้ง ไม่น่าเชื่อเขาตอบถูก

      "อาหารที่จอมมารท่านชอบ...ก็เลือดยูนิคอร์นไง"ลูเซียสตอบ
      ปิ้งป่องๆ
      ถ้าลูเซียสตอบช้าอีกนิด กรินดี้โลว์ในสระที่จอมมารเดินผ่านคงได้ระเบิดเป็นจุลแน่
      "นี่ดัมเบิลดอร์ คุณหาด่านที่มันน่ากลัว น่าตื่นเต้น เร้าใจกว่านี้ไม่ได้หรือไง"

      "ให้นำตัวเลขทุกตัวตั้งแต่วัน เดือน ปีเกิด รวมถึงเวลาตกฟาก ของเพื่อนคุณมาบวกกัน"สเนปอ้าปากค้าง " ฉันไม่ใช่แม่พอตเตอร์ หรือหมอตำแยที่ทำคลอดมันซะหน่อย"
      "เซเวอรัส ระวัง"เจมส์ตะโกนบอก  เมื่อเถาต้นวิโลว์หวดลงมาตรงที่สเนปยืนอยู่  สเนปกระโดดหลบได้ทันควัน  หันไปมองทางเจมส์ซึ่งกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่บนตาข่ายแมงมุม
      "ถ้ามันเกิดปีเดียวกับเรา 1+9+5+9=24 วันที่1 เดือน 1 เวลา01.01น. ก็จะเริ่มที่ตัวเลข 28 สงสัยคงต้องไล่ตอบไปเรื่อยๆ"
      "ใครมันจะไปรู้ฟ่ะ"ผู้ชมในห้องส่งกำลังวิจารณ์เรื่องคำถามสุดโหดของดัมเบิลดอร์อย่างหนัก
      "ขอตอบครับ 10 มีนา 1960 เวลาเที่ยงคืน 32 นาที รวมเป็น สามสิบเอ็ด"
      ...ก็มีอยู่คนเดียวนี่แล่ะ...
      ปิ้งป่องๆ
      "ซีเรียส แบล็ก"ลูปินจ้องคู่ซี้ด้วยท่ทีไม่ไว้ใจ 'ไอ้หมอนี่มันเป็นใคร  ขนาดตัวเขาเองแท้ๆยังลืมเลยว่าเขาตกฟากเวลาไหน  แต่มันกลับ  มันกลับจำได้  เอ๊ะ  เขาเคยบอกมันด้วยหรอเรื่องเวลาตกฟาก >0<'ลูปินอึ้ง
      "ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะจันทร์เจ้า ผิดด้วยหรอที่ฉันแอบไปขโมยสูจิบัตรนายมาดูดวงความรักของเราน่ะ"ซีเรียสยักไหล่
       "ผิดมหันต์เลยคุณแบล็ก ข้อแรกคุณขโมยสูจิบัตรผม ข้อสองใครใช้ให้คุณไปดูดวงความรักห่ะ"ลูปินเครียด
      "นายจะยังไงก็ช่าง แต่ที่รู้ๆ ธิดาพยากรณ์ทักมาว่า ไม่พ้นคืนพระจันทร์เต็มดวงหรอก สุนัขกริมจะมีชัยเหนือหมาป่า ฟันเฟิร์ม"
      อะไรสุนัขกริม หมาป่า??????? 
      ปิ้ง!! ลูปินเพิ่งเข้าใจ
      "แต่ที่แน่ๆ กริมผู้โชคร้ายอาจไม่ได้อยู่ถึงวันพรุ่งนี้"ลูปินหัวเราะ

      **************************************************************************************************************

      “คำถามคือ  ของขวัญชิ้นแรกที่คุณให้เขาในวันคริสต์มาส”

      “เหรียญห้าสิบเพนนี” แฮร์รี่ตอบ จำได้แม่น (อ้างอิงมาจากหนังสือแฮร์รี่เล่ม 1)

      ปิ้งป่องๆ

      “ของขวัญชิ้นแรกที่ฉันให้แกหรอลูเซียส... “

      “...”โวลเดอมอร์นิ่งไปครู่ใหญ่  ทุกคนในห้องส่งตั้งใจฟัง  อยากรู้นักว่ามันคืออะไร

      “คลับคล้ายคลับคลา  เหมือนว่าจะ...”

      “...”

      “ไม่เคยให้”

      ปิ้งป่องๆ

       

      กลับมาที่คู่สเนปและเจมส์

      “60...61...62...63”สเนปไล่นับเลขไปเรื่อยๆย่างใจเย็น  ขณะที่อโครแมนทูลาพ่นใหญ่ใส่เจมส์แล้วม้วนจนเป็นก้อนมัมมี่

      “64”เป็นคำตอบสุดท้าย 

      ปิ้งป่องๆ  ก้อนมัมมี่เจมส์ขาดหลุดออกจากใย กลิ้งหลุนๆ มากองอยู่แทบเท้าสเนป

      “ขอบใจ...นึกว่านายจะปล่อยให้ฉันโดนกินซะแล้ว”

      “ไม่มีทาง...ถ้าไม่มีนาย...แล้วฉัน...”สเนปเหยียดยิ้ม

       “ก็ออกไปจากเกมส์นี้ไม่ได้น่ะซิโว้ย!!!

      “โอเค...ซึ้ง...ไม่รักกันจริงนี่หว่า”

      “ตักน้ำใส่กะโหลกกลวงๆของนาย  แล้วชะโงกดูหนังหน้าตัวเองบ้างเหอะ”สเนปหลอกด่าแล้วเดินจากไป

      “นี่ๆ  มาช่วยเอาฉันออกไปจากก้อนมัมมี่นี่ก่อนซิ”ปล่อยให้เจมส์ร้องโวยวายดิ้นจนจนหลุดออกมาได้เอง

       

      "ให้นำตัวเลขทุกตัวตั้งแต่วัน เดือน ปีเกิด รวมถึงเวลาตกฟาก ของเพื่อนคุณมาบวกกัน"

      “แฮร์รี่  ช่วยฉันด้วย”รอนยืนขาสั่นอยู่ตรงประตูทางเข้า  แมงมุมหิวโซกำลังจับจ้องมาที่เหยื่ออันโอชะ

      ขณะที่แฮร์รี่ก็ยังกลุ้มใจอย่างหนัก “วันที่ 1  เดือน 3 ปี 1980 รวมกันแล้วได้ 22 แล้วเวลาเกิดของรอนล่ะ” แฮร์รี่มองไปยัง  ที่นั่งของผู้ชมเพื่อขอตัวช่วย

      “คุณนายวีสลีย์ค่ะ  ช่วยหน่อยค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่สะกิดถามแม่ของรอน

      “รอน..แฮร์รี่ สู้เขานะ”เฮอร์ไมโอนี่เสกป้ายอันหนึ่งขึ้นมาถือไว้มีข้อความเขียนว่า Fighting H:R  แล้วส่งเสียงร้องเชียร์

      แต่ she ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

      “คิดแบบเฮอร์ไมโอนี่ๆ”แฮร์รี่จับจ้องที่แผ่นป้ายแล้วเริ่มใช้ความคิด

      “แฮร์รี่  Help me!!” รอนทรุดลงกับตาข่าย เมื่ออโครแมนทูลาค่อยๆคืบคลานเข้ามา

      “ก็กำลังคิดอยู่นี่ไง...คิดแบบเฮอร์ไมโอนี่ๆ”เหงื่อเม็ดโตผลุดขึ้นเต็มใบหน้างามๆใต้กรอบแว่นที่เอียงกระเท่เล่

      หากมองเผินๆป้ายที่ถูกเขียนว่า Fighting H:R ก็ดูจะไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติ  แต่แล้ว แฮร์รี่ก็คิดออก

      ‘H คือตัวอะฟาเบทที่ 8 ในภาษาอังกฤษ และ R ก็คือตัวอะฟาเบทที่ 18 H:R ก็คือ 8:18 นั่นเอง

      “22+8+1+8 =39 คำตอบคือ 39”

      ปิ้งป่องๆ

      “รอน  ไปเร็ว”แฮร์รี่ร้องเรียก

      “นายไปก่อนเถอะ  ฉันขอไปเปลี่ยนกางเกงก่อน”ขากางเกงรอนเปียกชื้น

      เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มหน้าแดง แล้วโบกไม้กายสิทธิ์เบาๆกางเกงที่เปียกชื้นของรอนก็กลับแห้งเหมือนเก่า

       

      “วันเกิดของมันหรอ  ถามซะยากเชียว  ถ้าถามวันตายล่ะจะตอบได้ทันทีเลย”จอมมารงึมงำกับตัวเอง แต่เล่นเอาคู่หูหน้าถอดสีไปเรียบร้อย

      ซักพักใหญ่ๆต่อมาจอมมารก็เริ่มขีดเขียนตัวเลขลงบนไวท์บอร์ดของตัวเอง  แล้วเริ่มบวกเลข

      “5 เก็บไว้ในใจ ชูขึ้นมาอีก 2.. นับต่อเป็น 3...4...”

      “คำตอบคือ...”

      “47 ครับท่าน”ลูเซียสส่งโทรจิตมาหา

      “ฉันรู้แล้วล่ะน่า”

      “47”จอมมารตอบอย่างฉะฉาน

      ปิ้งป่องๆ

      แล้วพวกเขาทั้ง 4 คู่ ก็มาถึงด่านสุดท้ายในเวลาที่ไร่เรี่ยกัน 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×